พาวเวอร์แบงค์ THAI SUPER PHONE
สินค้าของทางร้านเป็นของแท้ 100% รับประกันศูนย์ส่งเคลมง่ายดาย โดยตอนนี้ทางร้านมีทั้ง ZMI และ ZTEC CUKTECH หลากหลายความจุ
พาวเวอร์แบงค์ รองรับการชาร์จไฟได้พร้อมกันถึง2เครื่อง ลองรับเทคโนโลยี fastcharge ไมว่าจะเป็น pd qc ปลอดภัย ใช้งานได้มั่นใจกว่า ด้วยระบบการป้องกันถึง 10 แบบ
หมดห่วงเรื่องแบตหมด... พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ด้วยพาวเวอร์แบงค์ สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา การมีพาวเวอร์แบงค์ดีๆ สักเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย หรือใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ อย่างหนักหน่วง มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะช่วยให้คุณชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มาพร้อมระบบป้องกัน ที่จะช่วยปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากการชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน
พบสินค้า 24 ชิ้น
สมาร์ทโฟนและแกดเจ็ตต่างๆ กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิต การที่แบตเตอรี่หมดระหว่างวัน โดยเฉพาะตอนอยู่นอกบ้าน ถือเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดและอาจสร้างปัญหาได้มากกว่าที่คิด "พาวเวอร์แบงค์" หรือแบตเตอรี่สำรองพกพา จึงกลายเป็นไอเทมคู่กายที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลายคน แต่พอจะเลือกซื้อทีไร ก็มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด ทั้งความจุ, ขนาด, ยี่ห้อ, แถมยังมีเรื่องชาร์จเร็วอีก แล้วเราควรจะดูอะไรบ้างล่ะ?
1. "ความจุ" (mAh) เท่าไหร่ถึงจะ "พอดี" กับคุณ?
mAh คืออะไร? ย่อมาจาก มิลลิแอมป์-ชั่วโมง เป็นหน่วยวัด "ปริมาณพลังงาน" ที่พาวเวอร์แบงค์เก็บได้ ง่ายๆ คือ ยิ่ง mAh เยอะ ยิ่งชาร์จอุปกรณ์ได้หลายรอบ แต่ขนาดและน้ำหนักก็จะเพิ่มตามไปด้วย
ลือกให้เหมาะกับการใช้งาน:
~10,000 mAh: (ขนาดมาตรฐานยอดนิยม) พกพาง่าย ไม่หนักเกินไป เหมาะสำหรับชาร์จสมาร์ทโฟนทั่วไปได้ประมาณ 1.5 - 2.5 รอบ เพียงพอสำหรับใช้งานระหว่างวัน หรือเดินทางสั้นๆ
~20,000 mAh: ชาร์จสมาร์ทโฟนได้หลายรอบ (ประมาณ 4-5+ รอบ), ชาร์จแท็บเล็ตได้, หรือชาร์จพร้อมกัน 2 เครื่อง เหมาะสำหรับคนใช้งานหนัก, เดินทางหลายวัน, หรือมีอุปกรณ์หลายชิ้น
มากกว่า 20,000 mAh: ความจุสูงมาก เหมาะสำหรับใช้งานหนักจริงๆ, เดินทางไกลหลายวัน, หรือใช้ชาร์จโน้ตบุ๊ก (ต้องดูรุ่นที่รองรับ PD Watt สูงๆ) แต่อาจมีข้อจำกัดในการพกขึ้นเครื่องบิน (ส่วนใหญ่ห้ามเกิน 32,000 mAh หรือ 160 Wh - ควรตรวจสอบกับสายการบิน)
Tip: ความจุที่ระบุ ไม่ใช่ความจุที่จะชาร์จได้จริง 100% เพราะมีการสูญเสียพลังงานระหว่างการชาร์จบ้างเล็กน้อย
2."ความเร็วชาร์จ" (Output Power): มือถือเรารองรับแบบไหน? สำคัญมาก!
ไม่ใช่แค่ชาร์จเข้า แต่ต้อง "เร็ว" ด้วย! พาวเวอร์แบงค์ยุคนี้ไม่ได้จ่ายไฟเท่ากันหมด ต้องดูว่ารองรับ "เทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Fast Charging)" หรือไม่ และเป็นแบบไหน?
มาตรฐานที่พบบ่อย:
USB Power Delivery (PD): มาตรฐานกลางยอดนิยม ใช้กับ iPhone (ตั้งแต่ iPhone 8), มือถือ Android รุ่นใหม่ๆ (Samsung, Google Pixel), iPad, Nintendo Switch, และโน้ตบุ๊กที่ชาร์จผ่าน USB-C ได้ (แนะนำให้มองหามาตรฐานนี้เป็นหลัก - Authoritativeness Recommendation)
Qualcomm Quick Charge (QC): พบในมือถือ Android หลายยี่ห้อ (โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon) มีหลายเวอร์ชัน (QC 3.0, 4.0+, 5)
มาตรฐานเฉพาะค่าย: เช่น Samsung Super Fast Charging (PPS - ซึ่งทำงานบนพื้นฐาน PD), OPPO VOOC/SuperVOOC, Huawei SuperCharge (มาตรฐานเหล่านี้ มักจะต้องใช้หัวชาร์จและสายของแบรนด์ตัวเอง ถึงจะได้ความเร็วเต็มที่) (Expertise)
ต้องดู "วัตต์" (W) ของช่อง Output: เช่น 18W, 20W, 25W, 30W, 45W, 65W, 100W ต้องเลือกให้ "เท่ากับ" หรือ "สูงกว่า" กำลังไฟสูงสุดที่มือถือ/อุปกรณ์ของคุณรองรับ ถึงจะชาร์จได้เร็วเต็มสปีด
สำคัญที่สุด: การชาร์จเร็วต้อง รองรับกันทั้ง 3 ส่วน: พาวเวอร์แบงค์ + สายชาร์จ + อุปกรณ์ ต้องรองรับมาตรฐานเดียวกันและกำลังไฟที่เท่ากัน (Trustworthiness)
3."ชาร์จพาวเวอร์แบงค์" นานแค่ไหน? (ดูช่อง Input ด้วย!)
พาวเวอร์แบงค์ความจุเยอะๆ ถ้าช่อง Input (ช่องรับไฟเข้าเพื่อชาร์จตัวพาวเวอร์แบงค์เอง) รับไฟได้ช้า อาจต้องชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน!
มองหารุ่นที่รองรับ "Fast Charging Input" (มักจะเป็นช่อง USB-C และรองรับ PD) จะช่วยประหยัดเวลาชาร์จพาวเวอร์แบงค์ได้มหาศาล
4. "ช่องเสียบ" (Ports): เพียงพอและตรงประเภทไหม?
ช่องจ่ายไฟออก (Output):
มีกี่ช่อง? (1, 2, 3 ช่อง?)
เป็นแบบไหน? USB-A (แบบเก่า สี่เหลี่ยม), USB-C (แบบใหม่ วงรี)? (ช่อง USB-C จำเป็นสำหรับการจ่ายไฟแบบ PD)
ช่องรับไฟเข้า (Input):
เป็น Micro-USB (แบบเก่า พบในรุ่นถูก/เก่า), USB-C (แบบใหม่ ดีกว่า ควรมี), หรือ Lightning (สำหรับบางรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อ iPhone โดยเฉพาะ)?
แนะนำ: เลือกรุ่นที่มี Input เป็น USB-C เพื่อความสะดวกและรองรับการชาร์จเข้าที่เร็วขึ้น
5. "ความปลอดภัย": สำคัญที่สุด! ต้องมี "มอก."
อันตรายจากของถูก/ปลอม/ไม่มีมาตรฐาน: พาวเวอร์แบงค์คุณภาพต่ำมีความเสี่ยงสูงมาก! ทั้งแบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน (อาจระบุความจุเกินจริง), วงจรป้องกันที่หละหลวม เสี่ยงต่อการ ลัดวงจร, ร้อนจัดเกินไป, บวม, หรือแม้แต่ไฟไหม้/ระเบิด! (Strong Trustworthiness Warning) ซึ่งอันตรายต่อทั้งตัวคุณและอุปกรณ์ราคาแพง
มองหาเครื่องหมาย "มอก." (TISI - มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม): นี่คือมาตรฐาน บังคับ สำหรับพาวเวอร์แบงค์ที่จำหน่ายในประเทศไทย ต้องมีเครื่องหมายนี้เสมอ! เพื่อรับรองว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์พื้นฐานแล้ว
ระบบป้องกันภายใน: พาวเวอร์แบงค์แบรนด์ดีๆ จะมีวงจรป้องกันครบถ้วน เช่น ป้องกันการชาร์จไฟเกิน (Overcharge), ป้องกันการคายประจุเกิน (Over-discharge), ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit), ป้องกันกระแสไฟเกิน (Over-current), ป้องกันความร้อนสูงเกิน (Over-temperature)
6. "ขนาดและน้ำหนัก": สะดวกพกจริงหรือเปล่า?
เลือกให้สมดุลกับความจุที่ต้องการ อย่าเลือกความจุสูงเกินไปถ้าไม่ได้ใช้บ่อย เพราะต้องแลกมากับขนาดและน้ำหนักที่พกพาลำบากขึ้น
7. "ยี่ห้อ" ที่น่าเชื่อถือ & ร้านค้าที่ไว้ใจได้
ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ร้านค้า Official, ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต, หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือ ระวังของปลอม หรือของหิ้วที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก.!
เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง: ลงทุนกับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักด้านคุณภาพและความปลอดภัย (เช่น zmi CUKTECH ZTEC)
8. ฟีเจอร์เสริม (ถ้าต้องการ)
มีสายชาร์จในตัว (Built-in Cable)
หน้าจอ LED บอกเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลือ (แม่นยำกว่าไฟจุดๆ)
รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging Pad)
มีไฟฉายในตัว